รถเต่าทองผลิตออกมาขายตั้งแต่สมัยสงครามโลกเป็นต้นมาแต่รถเริ่มมาแพร่หลายเมื่อปี 1954 รถรุ่นนี้ปัจจุบันหลงเหลือให้เห็นน้อยมากบางคัน ก็ไปตบแต่งดัดแปลงเสียจนจำไม่ได้ เนื่องจากรูปร่างของรถไม่เปลี่ยนแปลง เจ้าของจึงสามารถดัดแปลงตกแต่งให้ดูเป็นรถรุ่นใหม่ได้โดยง่ายผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับรถโฟล์คจริงๆ แล้วอยากที่จะบอกได้ว่าเป็นรถรุ่นใหม่ กล่าวโดยทั่วไปรถโฟล์ค เป็นรถที่แข็งแรง ทนทานเชื่อถือได้การสังเกตรูปพรรณของรถโฟล์ค ทว่าเป็นรุ่นไหนนั้น ควรตรวจดูหมายเลขชัสซี ที่พิมพ์ติดอยู่ที่สันกลาง ใต้เบาะที่นั่งหลังแห่งหนึ่งและป้าย อลูมิเนียม หลังที่วางอะไหล่อีกอีกแห่งหนึ่ง รถบางคันใช้ตัวถังเก่าแต่เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ฉะนั้นหมายเลขเครื่องยนต์ซึ่งพิมพ์อยู่ ใต้ฐานรองไดนาโมช้าจควรนำมาประกอบการพิจารณาด้วย เริ่มตั้งแต่รุ่นปี 1949
เต่าทอง ปี 1950
เป็นปีแรกที่โรงงานเริ่มใช้สายดึงจากภายในรถ สำหรับเปิดฝากระโปรงหน้ารถในรุ่นปีก่อนๆ ใช้วิธีกดปุ่มที่มือจับฝากระโปรง เป็นปีแรกที่เริ่มใช้ไฟฟ้า สตาร์ทเครื่องยนต์ ปีก่อนๆ นี้ใช้มือหมุน
ชัสซีหมายเลข 138 555 ถึง 220 471
เป็นปีแรกที่โรงงานเริ่มใช้สายดึงจากภายในรถ สำหรับเปิดฝากระโปรงหน้ารถในรุ่นปีก่อนๆ ใช้วิธีกดปุ่มที่มือจับฝากระโปรง เป็นปีแรกที่เริ่มใช้ไฟฟ้า สตาร์ทเครื่องยนต์ ปีก่อนๆ นี้ใช้มือหมุน
ชัสซีหมายเลข 138 555 ถึง 220 471
เต่าทอง ปี 1950
โรงงานเริ่มเปลี่ยนระบบเบลกมาเป็น ไฮดรอลิค รุ่นก่อนนั้นเบลกทำงานโดยอาศัยการดึงของสายเคเบิ้ล ท่อไอเสียเริ่มมีท่อไอร้อน (Heat Riser) ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป แผงหน้าปัดมีช่อง เขี่ยบุหรี่ เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่าง
ชัสซีหมายเลข 138 555 ถึง 220 471
โรงงานเริ่มเปลี่ยนระบบเบลกมาเป็น ไฮดรอลิค รุ่นก่อนนั้นเบลกทำงานโดยอาศัยการดึงของสายเคเบิ้ล ท่อไอเสียเริ่มมีท่อไอร้อน (Heat Riser) ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป แผงหน้าปัดมีช่อง เขี่ยบุหรี่ เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่าง
ชัสซีหมายเลข 138 555 ถึง 220 471
เต่าทอง ปี 1951
ปีนี้ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากปีที่แล้ว โรงงานเพิ่มโล่เครื่องหมายโฟล์คติดเข้าไป หนึ่งอัน ที่ฝากระโปรงหน้าเหนือมือจับ
ชัสซีหมายเลข 220 472 ถึง 313 829
ปีนี้ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากปีที่แล้ว โรงงานเพิ่มโล่เครื่องหมายโฟล์คติดเข้าไป หนึ่งอัน ที่ฝากระโปรงหน้าเหนือมือจับ
ชัสซีหมายเลข 220 472 ถึง 313 829
เต่าทอง ปี 2952
ปีนี้เปลี่ยนแปลงน้อยเช่นกัน กระทะล้อเปลี่ยนจากเดิม 16 นิ้ว เป็นล้อ 15 นิ้ว หน้าต่างรถเริ่มติดกระจกหูช้างระบายลม ในรุ่นก่อนๆ เป็นกระจกแผ่นเดียวมือจับลูกบิดฝาคลอบเครื่องท้ายเปลี่ยนเป็นตันตัว T ในรุ่นก่อนทำมนๆ ที่เก็บของหน้ารถเริ่มประดิษฐ์มีฝาปิดในรถรุ่นก่อนเป็นเปิดโล่ง
ชัสซีหมายเลข 313 830 ถึง 428 156
ปีนี้เปลี่ยนแปลงน้อยเช่นกัน กระทะล้อเปลี่ยนจากเดิม 16 นิ้ว เป็นล้อ 15 นิ้ว หน้าต่างรถเริ่มติดกระจกหูช้างระบายลม ในรุ่นก่อนๆ เป็นกระจกแผ่นเดียวมือจับลูกบิดฝาคลอบเครื่องท้ายเปลี่ยนเป็นตันตัว T ในรุ่นก่อนทำมนๆ ที่เก็บของหน้ารถเริ่มประดิษฐ์มีฝาปิดในรถรุ่นก่อนเป็นเปิดโล่ง
ชัสซีหมายเลข 313 830 ถึง 428 156
เต่าทอง ปี 1953
เป็นปีแรกที่กระจกหลังซึ่งแต่เดิมทำเป็น สอง บานแฝด เปลี่ยนเป็นกระจกแผ่นเดียวแต่ขนาดยังเล็กเท่าเดิม
ชัสซีหมายเลข 428 157 ถึง 575 414
เป็นปีแรกที่กระจกหลังซึ่งแต่เดิมทำเป็น สอง บานแฝด เปลี่ยนเป็นกระจกแผ่นเดียวแต่ขนาดยังเล็กเท่าเดิม
ชัสซีหมายเลข 428 157 ถึง 575 414
เต่าทอง ปี 1954
โรงงานเริ่มเปลี่ยนความจุกระบอกสูบจาก ของเดิม 1100 ซีซี เป็น 1200 ซีซี กำลัง แรงม้าเพิ่มขึ้นจาก 35 แรงม้าเป็น 36 แรงม้า ในรถรุ่นก่อนๆ ปุ่มสตาร์กับกุญแจสวิตซ์ อยู่แยกกัน ปีนี้โรงงานประดิษฐ์มารวมอยู่ที่เดียวกัน
ชัสซีหมายเลข 575 415 ถึง 722 934
โรงงานเริ่มเปลี่ยนความจุกระบอกสูบจาก ของเดิม 1100 ซีซี เป็น 1200 ซีซี กำลัง แรงม้าเพิ่มขึ้นจาก 35 แรงม้าเป็น 36 แรงม้า ในรถรุ่นก่อนๆ ปุ่มสตาร์กับกุญแจสวิตซ์ อยู่แยกกัน ปีนี้โรงงานประดิษฐ์มารวมอยู่ที่เดียวกัน
ชัสซีหมายเลข 575 415 ถึง 722 934
เต่าทอง ปี 1955
โรงงานประดิษฐ์ ไฟกระพริบสัญญานเลี้ยวแทนแขนยกที่ติดอยู่ข้างรถในรถรุ่นก่อนๆ ไฟเลี้ยวนี้ไว้ต่ำ ทางส่วนล่างของบังโคลน แต่เดิมโรงงานเปลี่ยนรุ่นแรกรถตาปีปฏิทิน รถที่ผลิตปี 1955 โรงงานปิดรุ่นในเดือน กรกฎาคม ปีนั้น
พอถึงเดือนสิงหาคน โรงงานถือเป็นศักราชใหม่ผลิตรถรุ่น ปี 1956 ทั้งนี้เพื่อให้คล้องจองกัน รุ่นรถที่ผลิตในอเมริกา
ชัสซีหมายเลข 722 935 ถึง 925 745
โรงงานประดิษฐ์ ไฟกระพริบสัญญานเลี้ยวแทนแขนยกที่ติดอยู่ข้างรถในรถรุ่นก่อนๆ ไฟเลี้ยวนี้ไว้ต่ำ ทางส่วนล่างของบังโคลน แต่เดิมโรงงานเปลี่ยนรุ่นแรกรถตาปีปฏิทิน รถที่ผลิตปี 1955 โรงงานปิดรุ่นในเดือน กรกฎาคม ปีนั้น
พอถึงเดือนสิงหาคน โรงงานถือเป็นศักราชใหม่ผลิตรถรุ่น ปี 1956 ทั้งนี้เพื่อให้คล้องจองกัน รุ่นรถที่ผลิตในอเมริกา
ชัสซีหมายเลข 722 935 ถึง 925 745
เต่าทอง ปี 1956
ดังกล่าวแล้ว รถรุ่นนี้เริ่มออกสู่ตลาด ตั้งแต่ เดือนสิงหาคม ปี 1955 เป็นต้นไป รุ่นนี้โรงงานติดปลายท่อไอเสียคู่ ชุบโครเมี่ยมในรถรุ่นก่อนปลายท่อไอเสียมี ท่อเดียว กันชนหน้าและหลังเริ่มประดิษฐ์ ประดาท่อโค้งกลม โก่งเป็นคันศร อยู่เบื้องต้นปีนี้โรงงานขายรถใน อเมริกาได้ถึง 50,000 คัน
ซัสซีหมายเลข 925 746 ถึง 1 246 618
ดังกล่าวแล้ว รถรุ่นนี้เริ่มออกสู่ตลาด ตั้งแต่ เดือนสิงหาคม ปี 1955 เป็นต้นไป รุ่นนี้โรงงานติดปลายท่อไอเสียคู่ ชุบโครเมี่ยมในรถรุ่นก่อนปลายท่อไอเสียมี ท่อเดียว กันชนหน้าและหลังเริ่มประดิษฐ์ ประดาท่อโค้งกลม โก่งเป็นคันศร อยู่เบื้องต้นปีนี้โรงงานขายรถใน อเมริกาได้ถึง 50,000 คัน
ซัสซีหมายเลข 925 746 ถึง 1 246 618
เต่าทอง ปี 1957
กระจกแคบไฟเลี้ยวหน้าติดไว้ต่ำมองเห็นได้ยาก ไฟหลังเล็ก รถรุ่นนี้จุดอ่อนอยู่ที่ห้องเกียร์ เกียร์ถอยหลังเข้ายากเมื่อใช้ไปประมาณ 70,000 กิโลเมตร เบลก รุ่นนี้ถ้ายังหลงเหลืออยู่ถึงปัจจุบัน ห้องคลัชคงเปลี่ยนไปหลายครั้งแล้วรุ่นนี้เดิมทีเดี่ยวลูกปืนคลัชเป็นถ่าน หากเราหาของเปลี่ยนมาใช้เป็นชนิดลูกปืนตลับก็จะดีขึ้นจุดที่จะต้องตรวจสอบ เวลาซื้อสำหรับรถรุ่นนี้คือ ระบบการทำงานของเบลก, คลัช, ไดนาโมชาจ, รอยรั่วตรงห้องเกียร์, ยางบู๊ชครอบเพลาหลัง, เฟืองเกียร์พวงมาลัย
ชัสซีหมายเลข 1 246 619 ถึง 1 600 439
กระจกแคบไฟเลี้ยวหน้าติดไว้ต่ำมองเห็นได้ยาก ไฟหลังเล็ก รถรุ่นนี้จุดอ่อนอยู่ที่ห้องเกียร์ เกียร์ถอยหลังเข้ายากเมื่อใช้ไปประมาณ 70,000 กิโลเมตร เบลก รุ่นนี้ถ้ายังหลงเหลืออยู่ถึงปัจจุบัน ห้องคลัชคงเปลี่ยนไปหลายครั้งแล้วรุ่นนี้เดิมทีเดี่ยวลูกปืนคลัชเป็นถ่าน หากเราหาของเปลี่ยนมาใช้เป็นชนิดลูกปืนตลับก็จะดีขึ้นจุดที่จะต้องตรวจสอบ เวลาซื้อสำหรับรถรุ่นนี้คือ ระบบการทำงานของเบลก, คลัช, ไดนาโมชาจ, รอยรั่วตรงห้องเกียร์, ยางบู๊ชครอบเพลาหลัง, เฟืองเกียร์พวงมาลัย
ชัสซีหมายเลข 1 246 619 ถึง 1 600 439
เต่าปี 1958 ปี 1959
ลักษณะส่วนใหญ่เหมือนรถปี 57 กระจกหลังมีขนาดใหญ่ขึ้นไฟสัญญานเลี้ยวขึ้นมาอยู่ตรงส่วนบนของบังโครน เบลกทำใหญ่ขึ้นกว้างกว่า รุ่นก่อนคลัชปลับปรุงแข็งขึ้น เครื่องยนต์รุ่นนี้ทนทานมรชื่อมาก เจ้าของรถหลายคันใช้รถได้ถึง 100,000 กม. โดยไม่ต้องถอดออกมายกเครื่อง
ชัสซีรุ่นปี 1958 เริ่มตั้งแต่หมายเลข 1 600 440 ถึง 2 007 615
ชัสซีรุ่นปี 1959 เริ่มตั้งแต่หมายเลข 2 007 616 ถึง 2 528 667
ลักษณะส่วนใหญ่เหมือนรถปี 57 กระจกหลังมีขนาดใหญ่ขึ้นไฟสัญญานเลี้ยวขึ้นมาอยู่ตรงส่วนบนของบังโครน เบลกทำใหญ่ขึ้นกว้างกว่า รุ่นก่อนคลัชปลับปรุงแข็งขึ้น เครื่องยนต์รุ่นนี้ทนทานมรชื่อมาก เจ้าของรถหลายคันใช้รถได้ถึง 100,000 กม. โดยไม่ต้องถอดออกมายกเครื่อง
ชัสซีรุ่นปี 1958 เริ่มตั้งแต่หมายเลข 1 600 440 ถึง 2 007 615
ชัสซีรุ่นปี 1959 เริ่มตั้งแต่หมายเลข 2 007 616 ถึง 2 528 667
เต่าทอง ปี 1960
รุ่นนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นพวงมาลัยเป็นเบ้าลึกลงไป เพื่อช่วยให้จับพวงมาลัย ได้ถนัดขึ้นมือจับประตูเปลี่ยนจากแบบเก่า ซึ้งต้องง้างออกเป็นแบบกดปุ่มเปิดปีนี้โรงงานติดเหล็กกันโครงหน้าเพื่อให้รถเกาะถนนดีขึ้นรถไม่แกว่งเมื่อวิงในความเร็วสูง ตัดกระแสลมระบบพวงมาลัยมีการ เพิ่มช็อคอัพพวงมาลัย (steering Damper) เข้าไปหนึ่งตัวกันพวงมาลัยสั่น ไดนาโมชาจเพิ่มกำลังมาก 160 วอลต์ คือเพิ่มขึ้นจากเดิม 12 เปอร์เซ็นต์ รุ่นปีนี้เป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมและเป็นรถขนาด 36 แรงม้ารุ่นสุดท้าย
ชัสซีหมายเลข 2 528 668 ถึง 3 192 506
รุ่นนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นพวงมาลัยเป็นเบ้าลึกลงไป เพื่อช่วยให้จับพวงมาลัย ได้ถนัดขึ้นมือจับประตูเปลี่ยนจากแบบเก่า ซึ้งต้องง้างออกเป็นแบบกดปุ่มเปิดปีนี้โรงงานติดเหล็กกันโครงหน้าเพื่อให้รถเกาะถนนดีขึ้นรถไม่แกว่งเมื่อวิงในความเร็วสูง ตัดกระแสลมระบบพวงมาลัยมีการ เพิ่มช็อคอัพพวงมาลัย (steering Damper) เข้าไปหนึ่งตัวกันพวงมาลัยสั่น ไดนาโมชาจเพิ่มกำลังมาก 160 วอลต์ คือเพิ่มขึ้นจากเดิม 12 เปอร์เซ็นต์ รุ่นปีนี้เป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมและเป็นรถขนาด 36 แรงม้ารุ่นสุดท้าย
ชัสซีหมายเลข 2 528 668 ถึง 3 192 506
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น